เกมอันตรายไม่แพ้กัน - ไทยรัฐ

jogja-tribbun.blogspot.com

ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ว่ารัฐบาล ฝ่ายค้าน ฝ่ายกลางๆ ขยับออกมาแอ็กชันผดุงความยุติธรรมกันพร้อมหน้าไม่มีตกขบวน หลายฝ่ายยังคาใจระดมข้อสงสัยพุ่งเข้าใส่ผู้บริหารประเทศ

ล่าสุด “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เซ็นหนังสือแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

มอบหมายนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน

“ปรับปรุงแก้ไขพัฒนา ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพเป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ”

ให้สรุปผลภายใน 30 วัน และรายงานนายกฯ เป็นระยะทุกๆ 10 วัน

ตรวจทานรายชื่อประธานและคณะกรรมการอีก 9 คน ล้วนถูกฝาถูกตัว ฝากผีฝากไข้ได้

แต่ถือเป็นภาระหนักอึ้งของ 10 อรหันต์ ในการกู้วิกฤติศรัทธากระบวนการยุติธรรมรวมทั้งรัฐบาล ลดแรงเสียดทานสังคมที่ถั่งโถมดั่งพายุ

ถ้าตรวจสอบครบถ้วนกระบวนความแล้วผู้คนยังรู้สึกเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงดีขึ้น ปาหี่ ลูบหน้าปะจมูก กรรมการก็พัง รัฐบาลก็เจ๊ง

เรื่องของเรื่องคดีนี้ไม่มีอะไรยากถ้าว่ากันไปตามเนื้อผ้า แต่มันติดเงี่ยงตรงนั้น สะดุดตอตรงนี้ เพราะอำนาจบารมีคนมีสตางค์ จนกลายเป็นที่มาของแฮชแท็กแสลงหู #คุกมีไว้ขังคนจน

เร้ากระแสมวลชน ขบวนการนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล จี้ให้ยุบสภา แก้รัฐธรรมนูญ วันนี้เพิ่มอีกข้อเรียกร้องโดยไม่ต้องคิดมาก ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

“ผีซ้ำด้ำพลอย” รัฐบาลที่ยังเมาหมัดจากเศรษฐกิจติดพิษโควิด กำลังจูนระบบด้วยการปรับ ครม. แต่ดันมาเจอวิกฤติซ้อนวิกฤติ ฉุดกระแสให้ตกต่ำซ้ำอีก ถือเป็นช่วงดวงแตกอย่างแท้จริง

ลำพังแก้เศรษฐกิจก็เจียนอยู่เจียนไป มาเจอคดีปาฏิหาริย์กระบวนการยุติธรรมเข้าไปอีก ถึงกับจุกพูดไม่ออก

ต้องตั้งหลัก ตั้งสติกันยกใหญ่ ทางสองแพร่ง เดินไปยังเจอสามแพร่ง อันตรายทุกฝีก้าวรัฐบาลมีสิทธิล้มทุกเมื่อ จะประคองกระแสกู้วิกฤติศรัทธากลับมายังไง

เป็นงานหนักที่ยังคิดภาพไม่ออก เพราะปัจจัยบวก ปัจจัยเกื้อหนุนน้อยเหลือเกิน

ชั่วโมงนี้ม็อบนักศึกษา ม็อบขาสั้น เคลื่อนไหวชุมนุมทำกิจกรรมต่อเนื่อง เพราะมีชนวนง่ายต่อการจุดติด สร้างกิมมิคสีสันมาเสียดสีรัฐบาล เช่น “วิ่งกันนะแฮมทาโร่” เอาวัฒนธรรมที่สนใจร่วมกันมาเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ หลีกเลี่ยงการพูดถึงคนที่กำลังจะสื่อถึง เพื่อความปลอดภัยในเชิงกฎหมาย

กระแสชุมนุมต่อต้านรัฐบาลลามทั่วประเทศ เห็นภาพนิสิต นักศึกษากระทบกระทั่งปะทะคารมกับเจ้าหน้าที่ และฝ่ายเห็นต่างเป็นระยะ แต่ไม่มีความรุนแรงอะไร ถือเป็นความสวยงามของประชาธิปไตย

แต่ที่หลายฝ่ายไม่สบายใจ แม้แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่แอบเชียร์อยู่ข้างหลัง คือ เหล่าเยาวชนจำพวกหนึ่งที่ส่งสัญญาณ “พร้อมบวก” ไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อย พร้อมชนทุกเสาหลักของประเทศ ทั้งยังไม่เคารพความเห็นต่าง “บูลลี่” การแสดงออกของใครก็ตามที่ไม่ถูกใจ ไม่เข้าพวก

ย้อนแย้งกับสิ่งที่ตนเองเรียกร้องต้องการ จนกลายเป็นเด็กแว้น สก๊อยการเมืองไปแล้ว

ความเห็นของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นักเคลื่อนไหวรุ่นพี่ อดีตแกนนำม็อบเสื้อแดงตัวพ่อ น่าสนใจรับฟัง

“การชุมนุมของนักเรียน นิสิต ศึกษา ถ้ายึดมั่นข้อเรียกร้องเชื่อว่าจะได้แนวร่วมจากประชาชน แต่ห่วงใยว่าการชุมนุมต้องไม่ก้าวล่วงสถาบัน เพราะจะทำให้จุดแข็งกลายเป็นจุดอ่อน นำพาไปสู่การสูญเสียจำนวนมาก”

มุทะลุดุดัน คิดจะเปลี่ยนประเทศกันวันนี้ พรุ่งนี้ ต้องถามคนมีประสบการณ์ดูว่ามันยาก มันอันตรายแค่ไหน ทุกวันนี้ต้องเดินเข้าออกคุกตะรางเป็นว่าเล่น หรือไม่ก็ต้องเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ เหน็บหนาวทั้งกายใจ

กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว การเปลี่ยนแปลงประเทศก็เช่นกัน

จังหวะเคลื่อน จังหวะรุก ต้องรอบคอบ ไม่สุ่มเสี่ยง นำไปสู่ความก้าวร้าวรุนแรง และอันตราย

สงครามทุกครั้งจบลงที่การเจรจา ดังนั้นสันติวิธีเจรจาโดยไม่ต้องรบดีที่สุด!!!

ทีมข่าวการเมือง