16 กรกฎาคม 2563
26
ปัจจุบันมีคนส่วนหนึ่งในสังคมที่ไม่ได้รับอาหารอย่างเพียงพอ ในขณะที่มีอาหารทั่วโลกถูกทิ้งราว 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตขึ้น
และในประเทศไทย “ประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหาร” ประโยคที่เรามักได้ยินกันบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่น้อยครั้งที่ต้องพบเจอกับปัญหา “ขยะอาหาร” ที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากอย่างเหลือเชื่อ…
การสูญเสียอาหารและขยะอาหารยังเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งองค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดในปี 2558 เป้าประสงค์ที่ 12.3 อีกด้วยว่า “ลดขยะอาหารของโลกลงครึ่งหนึ่ง ในระดับค้าปลีกและผู้บริโภคและลดการสูญเสียอาหารจากกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทานรวมถึงการสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยว ภายในปี 2573”
ขยะอาหารจากจาน จากครัว จากตลาดและร้านค้า
ถ้าอธิบายกันแบบเข้าใจง่ายๆ ขยะอาหารเป็นอาหารที่พวกเรากินทิ้งกินขว้าง เหลือกิน รวมไปถึงอาหารหมดอายุ ผักผลไม้ที่มีตำหนิและตกเกรด ซึ่งถูกนำเอาไปทิ้งกลายเป็นขยะนั่นเอง เราจึงเรียกสิ่งเหลือทิ้งนี้กันว่า “ขยะอาหาร” (Food Waste) ซึ่งถ้าพูดกันตามความเป็นจริงขยะอาหารบางส่วนที่ถูกทิ้งเหล่านั้น สามารถนำมากินหรือใช้ประกอบอาหารได้ หากลงมือป้องกันก่อนพวกมันจะกลายเป็นขยะ
ขยะอาหาร มีส่วนทำให้โลกร้อนจริงหรือ
ขยะอาหารในเมืองใหญ่ต่างๆ ของประเทศที่ถูกนำไปกำจัดในแต่ละวัน มีอยู่มากกว่าร้อยละ 50 ของขยะทั้งหมด ส่วนใหญ่มาจากบ้านเรือน ร้านอาหาร ศูนย์อาหาร ร้านค้าปลีกค้าส่ง และตลาด รวมถึงกิจกรรมการจัดเลี้ยงจัดประชุม และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขยะอาหารเหล่านี้เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนเกิดจากการสะสมของก๊าซเรือนกระจก เช่น การเผาไหม้ และการย่อยสลายแบบไม่ใช้ออกซิเจนซึ่งทำให้เกิดก๊าซมีเทน (CH4) เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนของการกำจัดขยะอาหารในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงใช้วิธี “ฝังกลบ” และวิธีนี้เองเป็นต้นเหตุของการเกิดก๊าซมีเทนรวมถึงก๊าซอื่นๆ ที่มีอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
เห็นหรือไม่ว่า “ขยะอาหาร” เป็นปัญหามีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าปัญหาอื่นๆ ที่เราทุกคนมีส่วนทำให้เกิดขึ้น จึงต้องช่วยกันแก้ หลายคนอาจสงสัยว่าเราจะเริ่มต้นอย่างไร ขอตอบอย่างเร็วว่าจะดีกว่าไหมถ้าวิถีการกินอาหารของเราช่วยลด “วิกฤตโลกร้อน” ได้ เพียงเริ่มต้นใส่ใจให้มากขึ้น
การจัดการขยะอาหาร ที่ใครๆ ก็ทำได้
1.วางแผนก่อนการซื้อ ควรตรวจสอบอาหารที่มีอยู่ วางแผนรายการอาหารและซื้อวัตถุดิบให้พอดีกับที่บริโภค งดพฤติกรรมซื้อมาตุนไว้จนกินไม่ทัน
2.รู้คุณค่าและความพอเหมาะ เตรียมอาหารให้พอเหมาะกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว ลดเศษวัตถุดิบจากการเตรียมอาหาร ตักอาหารให้พอดีกิน ไม่ตักในปริมาณที่มากเกินไป กรณีไปกินที่ร้านอาหาร หากกินไม่หมดสามารถห่อกลับ เก็บไว้กินมื้ออื่น หรือหากมีอาหารเหลือควรนำมาแปรรูปประกอบอาหารเมนูอื่น
3.รักษาอย่างถูกวิธี เก็บรักษาให้เหมาะสมกับประเภทอาหารในอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ควรใส่ของในตู้เย็นแน่นเกินไปจนความเย็นกระจายไม่ทั่วถึง และคอยตรวจเช็คสภาพอาหาร รวมถึงวันหมดอายุอยู่เสมอ
4.ทำบุญโดยไม่สร้างขยะอาหาร เตรียมอาหารสำหรับทำบุญในปริมาณที่เหมาะสม
5.เหลือก็แบ่งปัน นำอาหารไปใช้ประโยชน์ เช่น การมอบอาหารให้ผู้อื่นที่ต้องการ นำไปเป็นอาหารสัตว์ นอกจากจะช่วยลดปริมาณอาหารแล้ว ยังเป็นการแบ่งปันน้ำใจให้กับสังคมอีกด้วย
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย พร้อมหรือยัง ที่เราจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มาร่วมกันจัดการขยะอาหารอย่างเข้าใจ เราทำได้ คุณก็ทำได้ ร่วมกันทำให้โลกนี้น่าอยู่ และลดภาวะโลกร้อนไปด้วยกัน
โดย...
สันธิลา ปิณฑะคุปต์
ฝ่ายวิจัยและส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อม
สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย
July 16, 2020 at 04:06AM
https://ift.tt/2CyyXJ7
5 แนวทางลดขยะอาหาร ลดโลกร้อน | รักษ์โลก : Low Carbon Society - กรุงเทพธุรกิจ
https://ift.tt/2TYnNTT
Bagikan Berita Ini
0 Response to "5 แนวทางลดขยะอาหาร ลดโลกร้อน | รักษ์โลก : Low Carbon Society - กรุงเทพธุรกิจ"
Post a Comment