Search

คอลัมน์โลกธุรกิจ - 'แรงเสริมจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ' - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

jogja-tribbun.blogspot.com

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)อัพเดตแนวโน้มธุรกิจกลุ่มการพาณิชย์ (Commerce Sector)การที่ COVID-19 ระบาดทำให้สูญเสียรายได้ประมาณ 2 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในภาคบริการแม้ว่าจำนวนแรงงานในภาคบริการจะคิดเป็นประมาณ 29.7% ของกำลังแรงงานทั้งประเทศ, แต่รายได้ของแรงงานกลุ่มนี้มีถึง 46.1% ของรายได้รวม การใช้มาตรการ Lockdown ประเทศเพื่อคุมการระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการจ้างงานในภาคบริการเมื่อเทียบกับภาคเศรษฐกิจอื่นๆ เราคาดว่าน่าจะเห็นการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้จากการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และข้อจำกัดเรื่อง social distancing เราประเมิน scenario ในกรณีเลวร้ายว่าสถานการณ์ COVID-19 จะทำให้สูญเสียรายได้ไปประมาณ 2 ล้านล้านบาท คิดเป็น 36% ของการบริโภครวมของประเทศไทย

แต่ก็ยังขาดอีก 1.2 ล้านล้านบาท

รัฐบาลได้ออก พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดย 6 แสนล้านบาท จัดสรรไปให้กับผู้ประกอบอาชีพอิสระ (4.50 แสนล้านบาท) และ เกษตรกร (1.50 แสนล้านบาท)ขณะที่ส่วนที่เหลืออีก 4 แสนล้านบาท คาดจะออกมาในครึ่งหลังของปีนี้ แต่แม้จะมีเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ แต่ก็ยังขาดอีกถึง 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 22% ของการบริโภครวม แบ่งเป็นสินค้าจำเป็นประมาณ 5.3% และสินค้าฟุ่มเฟือย 16.9% ของการบริโภครวม

4 แสนล้านส่งผลดีในต่างจังหวัด

โครงการช่วยเหลือวงเงิน 4 แสนล้านบาท (ส่วนที่เหลือจาก พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท) เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพ รวมถึงยกระดับการค้า ภาคการผลิต และการบริการของประเทศ เราคาดว่าแพ็กเกจนี้จะจัดสรรไปให้ต่างจังหวัดในแง่ของการเพิ่มการจ้างงาน (50% ของงบประมาณทั้งหมด) เพิ่มการใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ (50% ของงบประมาณทั้งหมด) ดังนั้น เราจึงคาดว่าผู้ประกอบการที่มีเครือข่ายสาขาในต่างจังหวัดจะได้อานิสงส์จากแพ็กเกจนี้ โดยผู้ประกอบการที่ขายสินค้าที่จำเป็นต่อผู้บริโภคอย่าง Siam Makro (MAKRO), Big C Supercenter (BIGC) และTesco Lotus ต่างก็มีเครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งในต่างจังหวัด (ประมาณ70-80% ของสาขาทั้งหมด) ขณะเดียวกัน เราก็มองว่า Siam GlobalHouse (GLOBAL)จะเป็นผู้ประกอบการที่ขายสินค้าฟุ่มเฟือยซึ่งได้ประโยชน์จากประเด็นนี้ เพราะสาขาทุกแห่งอยู่ในต่างจังหวัด

ยังพอมีโอกาสให้เข้าเก็งกำไรได้

เรามองว่ายังพอมีโอกาสให้เข้าเก็งกำไรใน C.P. All (CPALL)สำหรับกลุ่มที่ขายสินค้าจำเป็นต่อผู้บริโภค และ Siam Global House (GLOBAL) สำหรับกลุ่มที่ขายสินค้าฟุ่มเฟือย โดย CPALL จะได้ผลบวกโดยอ้อมจาก MAKRO และผลบวกโดยตรงจากเครือข่ายร้านสะดวกซื้อของบริษัทจากการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown โดยคาดว่ากำไรในปี 2564 จะโต 17% และราคาหุ้นยังมี upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีก 13.7% ขณะที่เราคาดว่ากำไรของ GLOBAL ในปี 2564 จะโตอย่างน่าสนใจถึง 34% คิดเป็น PEG ที่สมเหตุสมผลที่ 0.9X เราให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มการพาณิชย์ที่ “เท่ากับตลาด” และมองว่ามีโอกาสเข้าเก็งกำไรใน CPALL (แนะนำถือราคาเป้าหมาย 1H64 ที่ 79.00 บาท) และ GLOBAL (แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 1H64 ที่ 14.60 บาท)

ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวลง เกิด disruption จากเทคโนโลยีใหม่ ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ พฤตกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ขยายสาขาห้างได้ช้าเกินคาด การหาทำเลสร้างสาขาใหม่




June 22, 2020 at 06:00AM
https://ift.tt/3fMdvP7

คอลัมน์โลกธุรกิจ - 'แรงเสริมจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ' - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://ift.tt/2TYnNTT


Bagikan Berita Ini

0 Response to "คอลัมน์โลกธุรกิจ - 'แรงเสริมจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ' - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"

Post a Comment

Powered by Blogger.